Relative Strength คือเครื่องมือที่ช่วยแยกหุ้นเด่นใน Sector ได้ยังไง?

ในโลกของการลงทุน หุ้นที่ทำผลงานได้โดดเด่นกว่าตลาดโดยรวมหรือกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันมักถูกเรียกว่า "หุ้นผู้นำ" (Leading Stock) การค้นหาหุ้นเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาด บทความนี้จะเจาะลึกวิธีการค้นหาหุ้นผู้นำเหล่านี้ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องมือที่เรียกว่า Relative Strength (RS)

Relative Strength (RS) คืออะไรและทำไมจึงสำคัญ?

Relative Strength ไม่ใช่ค่า RSI (Relative Strength Index) ที่หลายคนคุ้นเคย แต่เป็นแนวคิดที่ใช้ เปรียบเทียบประสิทธิภาพราคา ของหุ้นตัวใดตัวหนึ่งกับประสิทธิภาพของดัชนีตลาดโดยรวม ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรม (Sector Index) หรือแม้แต่หุ้นคู่แข่งโดยตรง เป้าหมายหลักคือการระบุว่าหุ้นนั้น "แข็งแกร่งกว่า" หรือ "อ่อนแอว่า" สิ่งที่เรานำมาเปรียบเทียบ

ทำไม RS จึงสำคัญในการหาหุ้นผู้นำ?

หุ้นผู้นำมักจะแสดง ความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (Relative Strength หรือย่อว่า RS) ที่เหนือกว่า ซึ่งหมายความว่าเมื่อตลาดโดยรวมซบเซา หุ้นผู้นำอาจจะรักษาระดับราคาไว้ได้ดี หรือแม้กระทั่งปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด และเมื่อตลาดกลับมาเป็นขาขึ้น หุ้นผู้นำเหล่านี้จะปรับตัวขึ้นได้เร็วกว่าและแรงกว่ามาก จึงถือเป็นหุ้นที่มีศักยภาพเหนือกว่าสิ่งที่ใช้เปรียบเทียบ ณ เวลานั้น

วิธีใช้ Relative Strength ในการค้นหาหุ้นผู้นำด้วย Technical Analysis

เราสามารถใช้ Relative Strength ได้หลายวิธีในแพลตฟอร์มดูกราฟยอดนิยมอย่าง TradingView ดังนี้:

1. การสร้าง "Relative Strength Line" (เส้น RS)

นี่คือวิธีที่ตรงไปตรงมาและเห็นภาพชัดเจนที่สุด โดยเราจะสร้างกราฟเส้นที่แสดง อัตราส่วนราคาของหุ้นต่อดัชนีเปรียบเทียบ

วิธีการทำใน TradingView:

เลือกหุ้นที่คุณต้องการวิเคราะห์: สมมติคุณสนใจหุ้น Xpeng (HKEX:9868 หรือ XPEV) ซึ่งอยู่ใน Sector ยานยนต์ฮ่องกง

ระบุดัชนีเปรียบเทียบ: คุณอาจใช้ดัชนี Sector เช่น HSAMI (Hang Seng Automobiles Index) หรือแม้แต่หุ้นคู่แข่งโดยตรงอย่าง Zeekr (NYSE:ZK)

จากภาพจะเห็นว่า XPEV แข็งกว่า ZK ในช่วงเวลาที่ผ่านมา วิธีนี้คือการนำ asset เทียบ asset ไม่ใช่ asset เทียบ base currency

พิมพ์ในช่องค้นหาสัญลักษณ์ (Symbol Search):

ถ้าต้องการเปรียบเทียบ XPEV กับ ZK ให้พิมพ์ XPEV/ZK แล้วกด Enter

ถ้าต้องการเปรียบเทียบ XPEV กับ Sector HSAMI ให้พิมพ์ XPEV/HSAMI แล้วกด Enter

กราฟที่ปรากฏขึ้นมาจะเป็น "เส้น Relative Strength" ซึ่งแสดงอัตราส่วนราคาของหุ้นตัวแรกหารด้วยหุ้นตัวที่สอง/ดัชนี

การตีความเส้น RS:

เส้น RS ชี้ขึ้น (Uptrend): นี่คือสัญญาณสำคัญ หมายความว่าหุ้นที่คุณกำลังดูอยู่นั้นกำลังทำผลงานได้ดีกว่า (Outperform) สิ่งที่คุณนำมาเปรียบเทียบ ยิ่งเส้น RS ชี้ขึ้นชันเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งที่เหนือกว่ามากเท่านั้น หุ้นประเภทนี้มีศักยภาพเป็น หุ้นผู้นำ

เส้น RS ชี้ลง (Downtrend): หมายความว่าหุ้นนั้นกำลังทำผลงานได้แย่กว่า (Underperform) สิ่งที่นำมาเปรียบเทียบ

เส้น RS เคลื่อนที่ด้านข้าง (Sideways): หมายความว่าหุ้นนั้นทำผลงานได้พอๆ กับสิ่งที่คุณนำมาเปรียบเทียบ

ตัวอย่างการใช้งาน:

สมมติคุณเห็นกราฟ HSAMI และ XPEV/HSAMI กำลังชี้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นบอกคุณว่า Xpeng กำลังแข็งแกร่งเท่ากับดัชนีกลุ่มยานยนต์ฮ่องกงโดยรวม ซึ่งบ่งชี้ว่า XPEV อาจเป็นหุ้นที่สามารถวิ่งตาม Sector นี้ได้ หรือกระทั่งอาจเป็นหุ้นผู้นำในอนาคตได้

ภาพ Index ของ HSAMI อยู่ใน Uptrend และยืนอยู่บริเวณ Significant High เดิมได้อยู่

เมื่อนำ XPEV หรือ 9868 เทียบกับ base currency ตามวิธีการดูหุ้นปกติ ราคาวิ่งขึ้นตามในลักษณะเดียวกับ Index

เมื่อนำ XPEV หรือ 9868 เทียบกับ Index ถือได้ว่าหุ้นนี้สามารถเกาะความแข็งแกร่งไปกับ Index ได้ แม้ราคาปัจจุบันยังไม่สามารถยืนบน significant high เดิมได้

2. Relative Strength Ranking (การจัดอันดับ RS)

วิธีนี้จะช่วยให้คุณ คัดกรองหุ้นจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว โดยการจัดอันดับหุ้นทั้งหมดใน Sector หรือในตลาดโดยรวมตามค่า Relative Strength ของแต่ละตัว

จากภาพ ZK เทียบกับ base currency ดูแข็งและอยู่ใน uptrend บน TF3D

แต่เมื่อ ZK เทียบกับ Index เช่น HSAMI ปัจจุบันอยู่ใน downtrend บน TF3D ซึ่งอนุมานได้ว่า ZK underperform HSAMI ซึ่งอาจยังไม่ใช่หุ้นที่แข็งแกร่งพอใน sector ณ ช่วงเวลาที่ผ่านมา

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม

Relative Strength เป็นตัววัด performance เทียบกับ benchmark เท่านั้น แม้ RS จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น การดู แนวโน้มราคาหลัก ของหุ้นนั้น (ว่าเป็นขาขึ้นหรือไม่), แนวรับแนวต้าน ที่สำคัญ, หรือ รูปแบบราคา (Price Patterns) เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนที่รอบด้าน

สรุป

การใช้ Relative Strength เป็นหัวใจสำคัญในการค้นหาหุ้นผู้นำที่แท้จริงในแต่ละ Sector ด้วยการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของหุ้นกับดัชนีหรือหุ้นคู่แข่ง เราจะสามารถระบุได้ว่าหุ้นตัวไหนที่กำลัง "Outperform" และมีศักยภาพในการเป็นผู้นำตลาดในอนาคต การฝึกฝนและนำเครื่องมือนี้ไปใช้จริงร่วมกับการวิเคราะห์ด้านอื่นๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการค้นพบหุ้นที่น่าลงทุนได้อย่างแน่นอน